วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2551

1. พัฒนาโปรแกรมเครื่องคิดเลข โดยให้ผู้ใช้ป้อนตัวเลข 2 จำนวน และเลือกเครื่องหมาย แล้วทำการแสดงผลลัพธ์ออกทางจอภาพ ดังตัวอย่างจอภาพ (Filename : cal.cpp)

#include
#include
void main()
{
char op;
float a,b;
clrscr();
printf("Input First Number : "); scanf("%f",&a);
printf("\nInput Operator(+,-,*,/) : "); scanf("%s",&op);
printf("\nInput Second Number : "); scanf("%f",&b);
switch(op){
case '+': printf("\n%0.2f + %0.2f = %0.2f",a,b,a+b);break;
case '-': printf("\n%0.2f - %0.2f = %0.2f",a,b,a-b);break;
case '*': printf("\n%0.2f * %0.2f = %0.2f",a,b,a*b);break;
case '/': printf("\n%0.2f / %0.2f= %0.2f",a,b,a/b);break;
default: printf("\nPlease seleec choice (+,-,*,/)");
}
getch();
}

2. ให้เขียนโปรแกรม สำหรับคำนวณน้ำหนักมาตรฐาน โดยให้ป้อนข้อมูล ส่วนสูง น้ำหนัก เพศ[M , F] (Filename : weight.cpp)

#include
#include
void main()
{
char fm;
float h,w;
clrscr();
printf("Your Male(m) or Female(f) : ");scanf("%c",&fm);
printf("\nYour Weight : ");scanf("%f",&w);
printf("\nYour Hight : ");scanf("%f",&h); switch(fm)
switch(fm) {
case 'm': if(h-100==w)
printf("\nYou Standardweight ");
else if(h-100
printf("\nYour weight > Standard : %0.2fkg",w-(h-100));
else if(h-100>w)
printf("\nYour weight Less Than Standard : %0.2fkg",(h-110)-w);
break;
case 'f': if(h-110==w)
printf("\nYou Standard weight ");
else if(h-110
printf("\nYour weight > Standard : %0.2fkg",w-(h-110));
else if(h-110>w)
printf("\nYour weight less Than Standard : %0.2fkg",(h-110)-w);
break;
getch();
}

3. ให้เขียนโปรแกรมรับตัวอักษรภาษาอังกฤษมาและบอกว่าเป็นสระ หรือ พยัญชนะ (Filename : eng.cpp)

#include
#include
void main()
{
char az;
clrscr();
printf("Please your input english word A-Z : ");scanf("%c",&az);
switch(az){
case 'a': printf(" a is article"); break;
case 'e': printf(" e is article"); break;
case 'i': printf(" i is article"); break;
case 'o': printf(" o is article"); break;
case 'u': printf(" u is article"); break;
default : printf("%c is consonant",az);
}
getch();
}

4. ให้เขียนโปรแกรมเพื่อรับจำนวนเงินบาท และบอกว่าใช้ธนบัตรประเภทใดเป็นจำนวนเท่าใด และต้องใช้เหรียญประเภทใด จำนวนเท่าใด (Filename : bank.cpp)

#include
#include
void main(){int mn;clrscr();
printf("Input total money : ");scanf("%i",&mn);
{ if(mn>=1000) printf("1000 bank :%i",mn/1000);
mn=mn%1000;
}
if(mn>=500){ printf("\n500 bank :%i",mn/500);
mn=mn%500;
}
if(mn>=100){ printf("\n100 bank :%i",mn/100);
mn=mn%100;
}
if(mn>=50){ printf("\n50 bank :%i",mn/50);
mn=mn%50;
}
if(mn>=20){ printf("\n20 bank :%i",mn/20);
mn=mn%20;
}
if(mn>=10){ printf("\n10 coin :%i",mn/10);
mn=mn%10;
}
if(mn>=5){ printf("\n5 coin :%i",mn/5);
mn=mn%5;
}
if(mn>=1){ printf("\n1 coin :%i",mn);
}
getch();
}

วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551

การเขียนโปรแกรม

3. ให้เขียนโปรแกรมเพื่อรับตัวเลข 0-100 แล้วบอกว่า มากกว่าหรือน้อยกว่า 50

#include
#include
main()
{
clrscr();
int number;
printf("Input a number 0-100 : ");
scanf("%i",&number);
if(number<50)
printf("%i is <50",number);
else
printf("%i is >=50",number);
getch();
}

4. ให้เขียนโปรแกรมรับตัวเลข 0-100 โดยเปรียบเทียบกับเลข 50 แล้วบอกว่า >50, <50,>

#include
#include
main()
{
clrscr();
int number;
printf("Input a number 0-100 : ");
scanf("%i",&number);
if(number<50)
printf("%i is <50",number);
else if(number==50)
printf("%i is =50",number);
else
printf("%i is >50");
getch();
}

5. ให้เขียนโปรแกรมรับคะแนนกลางภาค ปลายภาค แล้วทำการรวมคะแนนแล้วบอกว่าได้เกรดอะไร (Filename : grade5.cpp)80-100 ได้เกรด A
70-79 ได้เกรด B
60-69 ได้เกรด C50-59 ได้เกรด D
0-49 ได้เกรด E


#include
#include
main()
{
clrscr();
int mid,final,score;
printf("Input score midterm : ");
scanf("%i",&mid);
printf("Input score finalterm : ");
scanf("%i",&final);
score=mid+final;
if(score>=80 && score<=100)
printf("Your score is %i nYour grade is A");
if(score>=70 && score <80)
printf("Your score is %i nYour grade is B);
if(score>=60 && score <70);
printf("Your score is %i nYour grade is C);
if(score>=50 && score <60);
printf("Your score is %i nYour grade is D);
else
printf("Your score is %i nYour grade is E Sorry too.");
getch();
}

วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2551

คำถามท้ายบท บทที่ 1

1.เครื่องคอมพิวเตอร์มีกี่ประเภทอะไรบ้าง

ประเภทของเครื่องคอมพิวเตอร์มี 6 ประเภท คือ
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (Supercomputer)
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (Supercomputer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะในการทำงานสูงกว่า คอมพิวเตอร์แบบอื่น ดังนั้นจึงมีผู้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า คอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง (High Performance Computer) คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ สามารถคำนวนเลขที่มีจุดทศนิยม ด้วยความเร็วสูงมาก ขนาดหลายร้อยล้านจำนวนต่อวินาที งานที่ให้คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ทำแค่ 1 วินาที ถ้าหากเอามาให้คนอย่างเราคิด อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าร้อยปี ด้วยเหตุนี้ จึงเหมาะที่จะใช้คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ เมื่อต้องมีการคำนวนมากๆ อย่างเช่น งานวิเคราะห์ภาพถ่าย จากดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา หรือดาวเทียมสำรวจทรัพยากร งานวิเคราะห์พยากรณ์อากาศ งานทำแบบจำลองโมเลกุล ของสารเคมี งานวิเคราะห์โครงสร้างอาคาร ที่ซับซ้อน คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ มีราคาค่อนข้างแพง ปัจจุบันประเทศไทย มีเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Cray YMP ใช้ในงานวิจัย อยู่ที่ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์สมรรถภาพสูง (HPCC) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ผู้ใช้เป็นนักวิจัยด้านวิศวกรรม และวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ



เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe Computer)
คอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะสูงมาก แต่ยังต่ำกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ คือปกติสามารถทำงานได้รวดเร็ว หลายสิบล้านคำสั่งต่อวินาที สำหรับสาเหตุที่ได้ชื่อว่า เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ก็เพราะครั้งแรกที่สร้างคอมพิวเตอร์ลักษณะนี้ได้สร้างไว้บนฐานรองรับ ที่เรียกว่า คัสซี่ (Chassis) โดยมีชื่อเรียกฐานรองรับนี้ว่า เมนเฟรม นั่นเอง
เหมาะกับการใช้งาน ทั้งในด้านวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ และธุรกิจ โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมากๆ เช่น งานธนาคาร ซึ่งต้องตรวจสอบบัญชีลูกค้าหลายคน งานของสำนักงานทะเบียนราษฎร์ ที่เก็บรายชื่อประชาชนประมาณ 60 ล้านคน พร้อมรายละเอียดต่างๆ งานจัดการบันทึกการส่งเงิน ของผู้ประกับตนหลายล้านคน ของสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน คอมพิวเตอร์เมนเฟรม ที่มีชื่อเสียงมาก คือ เครื่องของบริษัท IBM
ในปัจจุบัน ความนิยมใช้เครื่องเมนเฟรม ในหน่วยงานต่างๆ ได้ลดน้อยลงมาก เพราะราคาเครื่องค่อนข้างแพง การใช้งานค่อนข้างยาก และมีผู้รู้ด้านนี้ค่อนข้างน้อย สถานศึกษาที่มีเครื่องระดับนี้ไว้ใช้สอน ก็มีเพียงไม่กี่แห่ง เหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งคือ คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กกว่า ได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะมากขึ้น จนสามารถทำงานได้เท่ากับเครื่องเมนเฟรม แต่ราคาถูกกว่า อย่างไรก็ตามเครื่องเมนเฟรม ยังคงมีความจำเป็น ในงานที่ต้องใช้ข้อมูลมากๆ พร้อมๆ กันอยู่ต่อไปอีก ทั้งนี้เพราะ เครื่องเมนเฟรมสามารถพ่วงต่อ และควบคุมอุปกรณ์รอบข้าง (Peripheral) เช่น เครื่องพิมพ์ เครื่องขับเทปแม่เหล็ก เครื่องขับจานแม่เหล็ก ฯลฯ ได้เป็นจำนวนมากในเวลาเดียวกัน


มินิคอมพิวเตอร์ (Minicomputer)
เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะน้อยกว่าเครื่องเมนเฟรม คือทำงานได้ช้ากว่า และควบคุมอุปกรณ์รอบข้างได้น้อยกว่า อย่างไรก็ตามจุดเด่นสำคัญ ของเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ ก็คือ ราคาย่อมเยากว่าเมนเฟรม การใช้งานก็ไม่ต้องใช้ บุคลากรมากนัก นอกจากนั้น ยังมีผู้ที่รู้วิธีใช้มากกว่าด้วย เพราะเครื่องประเภทนี้ มีใช้ตามสถานศึกษา ระดับอุดมศึกษาหลายแห่ง
มินิคอมพิวเตอร์ เหมาะกับงานหลากหลายประเภท คือใช้ได้ทั้งในงานวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรม เครื่องที่มีใช้ตามหน่วยงานราชการระดับกรมส่วนใหญ่ มักจะเป็นเครื่องประเภทนี้
เครื่องมินิคอมพิวเตอร์ ที่ได้รับความนิยมใช้กันมี บริษัท Digital Equipment Corporation หรือ DEC เครื่อง Unisys ของบริษัท Unisys เครื่อง NEC ของบริษัท NEC เครื่อง Nixdorf ของบริษัท Siemens-Nixdorf เครื่อง NCR ของบริษัท NCR ฯลฯ


ไมโครคอมพิวเตอร์ (Microcomputer)

เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก และใช้ทำงานคนเดียว จึงนิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ใช้งานที่พบได้อย่างแพร่หลาย จัดว่าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ทั้งระบบใช้งานครั้งล่ะคนเดียว หรือใช้งานในลักษณะเครือข่าย แบ่งได้หลายลักษณะตามขนาด เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแบบตั้งโต๊ะ (Personal Computer) หรือแบบพกพา (Portable Computer) หรือแบ่งตามผู้ผลิต ได้แก่ เครื่องกลุ่ม IBM, IBM Compatible และแมคอินทอช (Macintosh) เป็นต้น


คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ ที่เป็นตัวการผลักดันให้เกิด การเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในโลกคอมพิวเตอร์ คือ ทำให้เกิดความสนใจ ในเรื่องคอมพิวเตอร ์แพร่หลายไปสู่คนทุกอาชีพ และทุกวัย อย่างเช่นในเมืองไทยนี้เอง ก็มีนายแพทย์จำนวนมาก สนใจซื้อคอมพิวเตอร์มาศึกษา จนถึงขั้นเขียนโปรแกรมขึ้นมา ช่วยงานของโรงพยาบาลได้ อดีตปลัดกระทรวงสำคัญท่านหนึ่ง ก็ใช้คอมพิวเตอร์คล่อง จนถึงขั้นสามารถใช้เก็บข้อมูลสำคัญๆ ของกระทรวง ไว้ใช้ในการบริหารงานได้ ผู้บริหารงานราชการอีกหลายท่าน ก็มีความสามารถในด้านการใช้คอมพิวเตอร์ ในระดับที่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังต้องอาย

ลักษณะของไมโครคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งได้ เป็นรูปแบบย่อยดังนี้
-เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานทั่วไป ที่เรียกว่า Desktop Models รวมถึง Minitower / Tower Models

-เครื่องพิวเตอร์ขนาดเล็ก หรือ Notebook Computer หรือ Laptop Computer

-เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดฝ่ามือ หรือ Handheld Personal Computers (H/PCs) เช่น
PDAs - Personal Digital Assistants

-Palmtop Computer

-Cellular Phones


คอมพิวเตอร์เครือข่าย (Network computers)
เป็นคอมพิวเตอร์แบบใหม่ซึ่งเปลี่ยนแปลงมาจากไมโครคอมพิวเตอร์ โดยได้รับอิทธิพลมาจากแนวคอมพิวเตอร์อินเตอร์เนต คอมพิวเตอร์เครือข่ายหรือที่นิยมเรียกว่า NC จะถูกออกแบบให้เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีราคาต่ำ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาน้อย ทำให้เหมาะสมกับการใช้งานปริมาณมาก ๆ ในองค์กรขนาดใหญ่ รวมทั้งการเชื่อมต่ออินเตอร์เนต
คอมพิวเตอร์เครือข่ายจะไม่มีหน่วยเก็บข้อมูลสำรองอยู่ในตัว การจัดเก็บข้อมูลและโปรแกรมตะอยู่เครื่องศูนย์กลาง (Server) ซึ่งมีข้อดีคือการเปลี่ยนรุ่น (upgrade) ซอฟต์แวร์สามารถทำงานได้ง่าย สามารถทำงานจากเครื่องคอมพิวตอร์เครือข่ายเครื่องใดก็ได้ รวมทั้งง่ายต่อการดูแลรักษา (mailtenance) ของผู้ดูแลระบบคอมพิวเตอร์


คอมพิวเตอร์แบบฝัง (Embeddded computer)
เป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกฝังไปในอุปกรณ์ ทำให้มองไม่เห็นรูปลักษณ์ภายนอกว่าเป็นคอมพิวเตอร์ นิยมใช้ในการทำงานเฉพาะด้านโดยควบคุมการทำงานบางอย่าง เช่น เตาอบไมโครเวฟ ระบบการเติมน้ำมัน นาฬิกาข้อมือ อุปกรณ์เล่นเกม เป็นต้น


2.คอมพิวเตอร์แบบฝังคืออะไร

คอมพิวเตอร์แบบฝัง(Embeded computers)
เป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกฝังไปในอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้มองไม่เห็นจากรูปลักษณ์ภายนอกว่าเป็นคอมพิวเตอร์เช่น นิยมใช้การทำงานเฉพาะด้าน โดยทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมหน้าที่การทำงานบางอย่าง เช่นเตาอบไฟฟ้า นาฬิกาข้อมือ อุปกรณ์เล่นเกม







3.ข้อมูลและสารสนเทศแตกต่างกันอย่างไร

ข้อมูล (Data) คือ ข้อเท็จจริงหรือสาระต่าง ๆที่เกี่ยวข้องกับงานที่ปฏิบัติ อาจเป็นตัวเลขหรือข้อความที่เกิดขึ้นจาก การ ดำเนินงาน หรือที่ได้จากหน่วยงานอื่น ๆ ข้อมูลเหล่านี้ ยังไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ ในการตัดสินใจได้ทันที จะนำไปใช้ได้ก็ต่อเมื่อผ่านกระบวนการประมวลผลแล้ว
สารสนเทศ (Information) นั้นคือ ข้อมูลที่ได้ผ่านกระบวนการประมวลผลแล้ว อาจใช้วิธีง่าย ๆ เช่น หาค่าเฉลี่ย หรือใช้ เทคนิคขั้นสูง เช่นการวิจัยดำเนินงาน เป็นต้น เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพข้อมูลทั่วไปให้อยู่ในรูปแบบที่มีความสัมพันธ์ หรือ มีความเกี่ยว ข้องกัน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจหรือตอบปัญหาต่าง ๆ ได้ สารสนเทศ ประกอบด้วยข้อมูล เอกสาร เสียง หรือรูปภาพต่าง ๆ แต่จัดเนื้อเรื่องให้อยู่ในรูปที่มีความหมาย สารสนเทศไม่ใช่จำกัดเฉพาะเพียงตัวเลขเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

4. VLSI คืออะไร สำคัญต่อคอมพิวเตอร์อย่างไร

เทคโนโลยีทางด้านการผลิตวงจรอิเล็กทรอนิคส์ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีการสร้างวงจรรวมที่มีขนาดใหญ่มารวมในแผ่นซิลิกอน เรียกว่า วีแอลเอสไอ (Very Large Scale Intergrated circuit : VLSI) เป็นวงจรรวมที่รวมเอาทรานซิสเตอร์จำนวนล้านตัวมารวมอยู่ในแผ่นซิลิกอนขนาดเล็ก และผลิตเป็นหน่วยประมวลผลของคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน เรียกว่า ไมโครโปรเซสเซอร์ (microprocessor)

การใช้ VLSI เป็นวงจรภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์สูงขึ้น เรียกว่า ไมโครคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นเครื่องที่แพร่หลายและมีผู้ใช้งานกันทั่วโลก

การที่คอมพิวเตอร์มีขีดความสามารถสูง เพราะ VLSI เพียงชิพเดียวสามารถสร้างเป็นหน่วยประมวลผลของเครื่องทั้งระบบหรือเป็นหน่วยความจำที่มีความจุสูงหรือเป็นอุปกรณ์ควบคุมการทำงานต่าง ๆ ขณะเดียวกันพัฒนาของฮาร์ดดิสก์ก็มีขนาดเล็กลงแต่ราคาถูกลง เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์จึงมีขนาดเล็กลงปาล์มทอป (palm top) โน็ตบุ๊ค (Notebook)


5. นิสิตใช้คอมพิวเตอร์ในชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง

ใช้ในการค้นหาความรู้จากอินเตอร์เนต เพื่อเปิดโลกทัศน์ใหม่ เพื่อใช้ในการศึกษาหรือทำงาน หรือใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้เป็นเครื่องบันเทิงใจ ในการเล่นเกมหรือฟังเพลง



วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2551




แอปเปิลเปิดตัวไอโฟน ยุคทรีจี ราคาถูกลงกว่าเดิม ลอนดอน 10 มิ.ย. – แอปเปิลเปิดตัวไอโฟน รุ่นที่ 2 ไว้ใช้กับเครือข่ายเทคโนโลยีไร้สายยุคทรีจี ซึ่งจะทำให้การรับ-ส่งข้อมูล เป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็วมากขึ้น บริษัทแอปเปิลหวังว่าไอโฟนรุ่นใหม่นี้จะช่วยให้บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดโทรศัพท์อัจฉริยะมากขึ้น ซึ่งผู้ที่ครองตลาดในปัจจุบันก็คือ โนเกีย และแบล็กเบอร์รี่นายสตีฟ จอบส์ ผู้บริหารแอปเปิล นำไอโฟนรุ่นใหม่มาเปิดตัวเป็นครั้งแรก และย้ำว่า ผู้บริโภคจะซื้อหาไอโฟนรุ่นนี้ได้ง่ายขึ้น เพราะมีราคาถูกลง ขายกันที่ราคาเริ่มต้น 199 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6,500 บาท ไอโฟนรุ่นนี้จะมาพร้อมกับ จีพีเอส หรือระบบนำทางด้วยดาวเทียม ซึ่งจะปรับข้อมูลให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ที่ผู้บริโภคใช้งานอยู่ไอโฟนรุ่นแรกได้รับการเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว แต่ถูกวิจารณ์อย่างหนัก เพราะตัวเครื่องใช้ได้กับเครือข่ายในยุคทูจี เท่านั้น ซึ่งมีการรับ-ส่งข้อมูลได้ช้ากว่ายุคทรีจี ในปัจจุบัน ไอโฟนรุ่นใหม่ที่ใช้กับเครือข่ายในยุคทรีจีนี้ จะดาวน์โหลดข้อมูลผ่านโทรศัพท์มือถือได้เร็วกว่าเดิมถึง 3 เท่าไอโฟนรุ่นใหม่จะวางขายพร้อมกัน 22 ประเทศ ในวันที่ 11 เดือนหน้า แม้นักวิเคราะห์บางคนมองว่า ไอโฟนรุ่นนี้ไม่มีลูกเล่นแปลกใหม่ แต่หลายคนกลับเห็นว่าจุดแข็งของไอโฟนรุ่นนี้ อยู่ตรงที่ราคาถูกอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะมีราคาเริ่มต้นแค่ 6,500 บาท ถือว่าถูกมาก เมื่อเทียบกับไอโฟนรุ่นก่อน ซึ่งมีราคาขายเริ่มต้นที่เกือบ 20,000 บาท. - สำนักข่าวไทย

อัพเดตเมื่อ 2008-06-10 12:40:34

ข้อมูลจาก http://news.mcot.net/technology/inside.php?value=bmlkPTM5MzA2Jm50eXBlPXRleHQ=

ข่าวเทคโนโลยี



ค่ายไอทีอัดโปรโมชั่นสวนเศรษฐกิจ อัสซุสเปิดจองอีอีอีพีซีอะตอมที่คอมมาร์ต


ยักษ์คอมพ์พาเหรดถล่มราคาโน้ตบุ๊ค 14 นิ้ว 14,000 บาท รับน้องใหม่ "เน็ตบุ๊ค" ที่งานคอมมาร์ตซึ่งเปิดฉากวันนี้ เอชพีหั่นมินิโน้ตต่ำ 30,000 บาท วัดสัญญาณกำลังซื้อคอนซูเมอร์ เอเซอร์ปรับยอดขายรับเศรษฐกิจ

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : นายประเสริฐ จรูญไพศาล ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มเพอร์ซันนัล ซิสเต็ม กรุ๊ป บริษัทฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด (เอชพี) กล่าวว่า บริษัทหั่นราคามินิโน้ต หน้าจอ 9 นิ้ว รุ่นที่ใช้ระบบปฏิบัติการวิสต้าบิซิเนส จาก 35,900 เหลือ 29,900 บาท และที่ใช้วิสต้าเบสิก 25,900 บาท และโน้ตบุ๊คพาวิลเลียน ดีวี276ทีเอ็กซ์ ราคา 36,900 จาก 39,900 บาท ทั้งลดราคารุ่นอื่นๆ พร้อมแถมเครื่องพิมพ์เลเซอร์ หรือออลอินวัน

ทั้งยังรักษาระดับการทำโปรโมชั่น ซึ่งต้องวัดผลหลังงานว่า ยอดขายรวมจะลดกว่าทุกครั้งหรือไม่ หากยอดขายของทุกยี่ห้อเฉลี่ยลดลง 20-30% จะเป็นสัญญาณที่น่าเป็นห่วง สะท้อนกำลังซื้อผู้บริโภค

ที่ผ่านมา ยังมีกำลังซื้อจากตลาดต่างจังหวัด ที่เอชพีจัดโปรโมชั่นโน้ตบุ๊คเอ็กซ์โป รุ่นระดับ 19,900-35,000 บาทซึ่งยังเติบโตได้มาก

นายบุญชัย เงาวิศิษฎ์กุล ผู้จัดการอาวุโสกลุ่มคอนซูเมอร์ ซิสเต็ม โปรดักส์ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ กล่าวว่า บริษัทเสนอโน้ตบุ๊ค "เอ็กซ์เทนซ่า" ที่ผลิตมาขายเฉพาะงานคอมมาร์ต ราคา 12,900 บาท หน้าจอ 14 นิ้ว ชิพเซลเลอรอน ความเร็ว 2.13 กิกะเฮิรตซ์ ฮาร์ดดิสก์ 80 กิกะไบต์ จำนวน 400 เครื่อง จากปกติเทียบสเปคเดียวกันจะอยู่ที่ 16,900 บาท

นอกจากนั้น ยังนำแอสไปร์วัน เน็ตบุ๊คที่ทำตลาดรายแรกราคา 14,900 บาท พร้อมโปรโมชั่นซื้อโน้ตบุ๊คเซ็นทริโน พ่วงแอสไปร์วัน ราคา 46,800 จาก 49,800 บาท ส่วนหนึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคเห็นถึงความแตกต่างของโน้ตบุ๊คที่ใช้เซ็นทริโน กับเน็ตบุ๊ค

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน ทำให้บริษัทปรับลดยอดขายโน้ตบุ๊ครวมจากเดิม 18,000 เครื่อง เหลือ 15,000 เครื่องภายใน 4 วันงาน

นายพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทเปิดตัวอัสซุส อีอีอี พีซี 903 ที่ใช้ชิพอะตอม อินเทล หน้าจอ 8.9 นิ้ว หน่วยความจำเอสเอสดี 16 กิกะไบต์ แรม 1 กิกะไบต์ ราคา 15,900 บาท ไม่รวมภาษี ซึ่งจะเปิดสั่งจองานคอมมาร์ต และลดราคาเครื่องรุ่นเก่าที่ใช้แพลตฟอร์มเซลเลอรอนเอ็มด้วย

นอกจากนั้น ปรับลดโน้ตบุ๊ค 14 นิ้ว รุ่น Z99Sr ชิพคอร์ทูดูโอ แรม 1 กิกะไบต์ ฮาร์ดดิสก์ 250 กิกะไบต์ จำหน่ายเฉพาะในงาน 550 เครื่อง ราคา 28,900 จาก 35,900 บาท

นายธีรวุฒิ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย และการตลาด บริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทปรับลดราคาโน้ตบุ๊คทั้งหมด 10 รุ่นที่จำหน่ายในงาน ซึ่งรวมถึงอาร์ 45 และเอ็กซ์ 31 เฉลี่ย 1,000-3,000 บาท แถมแรม 1 กิกะไบต์ พร้อมขยายเวลารับประกันบางรุ่นเป็น 2 ปี ทั้งให้สิทธิแลกซื้อจอแอลซีดี เบ็นคิว 24 นิ้ว ราคา 9,900 จาก 13,900 บาท

นายวีระ อิงค์ธเนศ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จะนำเสนอโน้ตบุ๊ค 14 นิ้วในราคาซื้อหาง่ายสำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์เครื่องแรกและมีคุณสมบัติเครื่องครบครันด้วยรุ่นไอริส ใช้ชิพเซลเลอรอน แรม 1 กิกะไบต์ ฮาร์ดดิสก์ 120 กิกะไบต์ ราคา 13,900 บาท จากปกติ 16,000 บาท และจัดรอบขายให้ผู้โชคดีเหลือเครื่องละ 9,900 บาทวันละ 5 รอบตลอดงาน

ส่วนรุ่นที่ใช้ชิพคอร์ทูดูโอ แอลซีดี 15 นิ้ว จะทำราคา 17,500 บาท และชิพเซ็นทริโน 25,900 บาท ทั้งนี้จุดขายหลักคือ ทำราคาโน้ตบุ๊ค 14 นิ้วให้ผู้ใช้เครื่องแรก เพราะมองว่าเน็ตบุ๊คหน้าจอขนาดเล็ก 8.9 นิ้ว จะเหมาะกับกลุ่มเด็ก 6-12 ปีเป็นหลัก ซึ่งคาดว่างานนี้จะขาย 1,000 เครื่องจากปกติมียอดขายโน้ตบุ๊คในงาน 500-600 เครื่อง เพราะเป็นครั้งที่ทำสเปคมาพิเศษด้วยราคาต่ำสุด

ข่าวจาก ไอที-นวัตกรรม
เวลา 12 มิถุนายน พ.ศ. 2551 00:00:00
เว็บ http://www.rssthai.com

วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2551

เช็งกะชีวิต


ชีวิตที่แสนน่าเบือสักวันมันต้องดีขึ้น
ตาบใดที่เรายังหายจัยก้อคงสู้ต่อปัย